
Japan: medicine & neurology
ประวัติการแพทย์แผนปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่นเริ่มต้นเมื่อ ค.ศ. 1774 ในยุคโทคุกาวา
(Tokugawa Era, ค.ศ. 1603-1867) โดยมีการพิมพ์หนังสือกายวิภาคศาสตร์แปลจากภาษาดัทช์ที่มี
รากศัพท์มาจากภาษาเยอรมันอีกทีหนึ่ง เช่นกันแพทยศาสตร์รวมทั้งประสาทวิทยาได้รับอิทธิพลจาก
แพทย์เยอรมันในยุคก่อนมากคือ ยุคเมจิ (Meiji Era, ค.ศ. 1868-1912) ในตอนต้นยุคอายุรแพทย์เยอรมัน
ได้รับเชิญไปสอนที่มหาวิทยาลัยโตเกียว แพทย์ชาวญี่ปุ่นไปศึกษาต่อที่เบอร์ลินอาทิ นายแพทย์คิตาสาโตะ
(S. Kitasato, ค.ศ. 1852-1931) ผู้เป็นแพทย์คนแรกที่เพาะเชื้อบาดทะยักและเป็นผู้ค้นพบสารต้าน
ชีวพิษบาดทะยัก (tetanus antitoxin) ร่วมกับเอมิล ฟอน เบริง (Emil von Behring, ค.ศ. 1854-1917)
นักสรีรวิทยาชาวเยอรมัน ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือแพทยศาสตร์เป็นคนแรกเมื่อ ค.ศ. 1901
ในฐานะที่เป็นผู้ค้นพบสารต้านชีวพิษโรคคอตีบ (diphtheria) ต่อมามีอายุรแพทย์ชาวญี่ปุ่นไปศึกษาเพิ่มเติม
ด้านประสาทวิทยาจากเฮอมานน์ ออพเพนไฮม์ (Hermann Oppenhein, ค.ศ. 1858-1919)
และวิลเฮล์ม เอิบ (Wilhelm Erb, ค.ศ. 1840-1921) ที่เยอรมัน และจากฌอง มาร์แตง ชาโก
(Jean Martin Charcot, ค.ศ. 1825-1893) ที่ปารีส
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1939-1945) มีโรคประหลาดที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในญี่ปุ่น
สองโรคคือ โรคมินามาตะ (Minamata) และ SMON (subacute myelo-optico neuropathy) โรคแรกมักเป็น
ที่รู้จักแพร่หลายกันดีคือ โรคจากพิษปรอทที่เกิดที่อ่าวมินามาตะ เขตปกครองคุมาโมโต (Kumamoto Prefecture)
ซึ่งศาสตราจารย์นายแพทย์ดักกลาส แมคอัลไพน์ (Douglas MacAlpine, ค.ศ. 1890-1981) ประสาทแพทย์
จากสหราชอาณาจักร เป็นผู้ให้คำแนะนำเรื่องสาเหตุเพราะมีประสบการณ์ทางเวชกรรมเกี่ยวกับพิษปรอท
ขณะที่ได้รับเชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาเรื่องโรคมัลติเพิล สเคลอโรลิส (Multiple Sclerosis) !
SMON เป็นโรคประสาทไขสันหลังและประสาทตาเสื่อมกึ่งเฉียบพลันที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ท้องเดิน
และได้รับยา clioquinol (Quinoform หรือยา Enterovioform ผลิตโดยบริษัท Ciba-Geigy) ในช่วง ค.ศ. 1955
ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ป่วยเป็นจำนวนอย่างน้อยหนึ่งหมื่นคน และมีรายงานในประเทศสวีเดนต่อมาโดยกุมารแพทย์
และประสาทแพทย์ โอลเล ฮานส์สัน (Olle Hansann) ถือได้ว่าเป็นโรคแพทย์ทำ (iatrogenic disease)
จากยาที่เป็นประวัติการณ์ในประวัติศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน มีการฟ้องร้องเป็นคดีในศาลที่บริษัทยาข้ามชาติ
ที่กล่าวต้องใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 3 พันล้านเยน ประสาทแพทย์ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการศึกษาโรค
“ระบาด” นี้คือ ศาสตราจารย์ทาดาโอ ซึบากิ (Tadao Tsubaki) เพื่อนอาวุโสของผู้เขียนจากมหาวิทยาลัยนิกาตา
(Niigata) ที่เคยมาบรรยายที่ภาควิชาอายุรศาสตร์ รามาธิบดี ผู้ป่วยด้วยโรคนี้มีลิ้นเป็นสีเขียวจากเหล็ก
(ferric iron) ทำปฏิกิริยากับ clioquinol
ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีโรคที่มีชื่อเป็นชื่อแพทย์ชาวญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น โรคทากายาสุ
หรือโรคหลอดเลือดแดงอักเสบตามชื่อจักษุแพทย์มิกิโต ทากายาสุ ชาวญี่ปุ่น (ค.ศ. 1860-1938)
แม้แต่ในศตวรรษนี้ (ที่ 21) ก็ยังมีโรคใหม่ ๆ เรียกชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นที่รายงานเป็นครั้งแรกในช่วงหลังศตวรรษ
ที่ผ่าน เช่น โรคคิคูชิ-ฟูจิโมโตซึ่งผู้ป่วยมักเป็นหญิงมากกว่าชายมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต เม็ดเลือดขาวต่ำ
บางรายมีอาการคล้ายผู้ป่วยด้วย SLE เรียกชื่อโรคตามชื่อแพทย์ แล้วยังมีโรคไซนัสหรือโพรงจมูกอักเสบเหตุซึนามิ
(Tsunami sinusitis) และโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม “ปลาหมึกยักษ์” หรือทาโคซึโบ (Takotsubo cardiomyopathy)
ซึ่งรู้จักในนามอื่น เช่น acute apical ballooning syndrome หรือ broken heart syndrome ! และโรคเสกาวา
เรียกตามชื่อนายแพทย์มาสายา เสกาวา (Masaya Segawa, ค.ศ. 1936-2014) เพื่อนของผู้เขียนที่เพิ่ง
ถึงแก่กรรมเมื่อปลายปีที่ผ่าน เป็นต้น ผู้สนใจโรคเหล่านี้หาอ่านได้จากเอกสารอ้างอิงที่ให้ไว้
แนะนำเอกสาร
1) Aki M. (1982). The history of Neurology in Japan, with special reference to its postwar period.
In: Historical Aspects of the Neurosciences. A Festschrift for Macdonald Critchley. Eds. FC Rose,
WF Bynum. Raven Press, New York. pp. 451-462.
2) McAlpine D, Araki S. (1958). Minamata disease: an unusual neurological disorder caused by
contaminated fish. Lancet. 2 : 629-631.
3) Tsubaki T, Honma Y, Hoshi M. (1971). Neurological syndrome associated with clioquinol.
Lancet. 1 : 696-697.
4) อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พ.ศ. 2546) โรคชื่อญี่ปุ่นหรืออิตาเลียนปนญี่ปุ่น ? ใน เรียนอายุรศาสตร์
จากกรณีผู้ป่วย เล่ม 3 กรุงเทพฯ: บริษัท ซิล์คโรดพับบลิเชอร์เอเยนซี จำกัด หน้า 11-20
5) Amnueilaph R, Charoenvej P, Vejjajiva A. (1973). Pulseless Disease Presenting with isolated
abducens nerve palsy and recurrent cutaneous angitis. Brit Med J. 3 : 27-8.
6) อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พ.ศ. 2556) Segawa disease ใน เกร็ดความรู้อายุรศาสตร์ A-Z เล่ม 2
โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์ (1987) กรุงเทพฯ หน้า 82-85
7) Dalton J, Shaw R, Democratis J. (2014). Kikuchi-Fujimoto disease. Lancet. 383 : 1098.
8) Baba S, Kondo K, Kanaya K, et al. (2011). Tsunami sinusitis. Lancet. 378 : 1116.
9) Gianni M, Dentali F, Grandi AM, et al. (2006). Apical ballooning syndrome or takotsubo
cardiomyopathy: a systematic review. Eur Heart J (Oxford University Press). 13 : 1523-1529.
